8 จุดเช็คอิน วันเดียวเที่ยวสมุทรสาคร
หากพูดถึงเมืองริมชายฝั่ง 3 สมุทร ทั้งสมุทรสงคราม สมุทรปราการ และ สมุทรสาคร ในแง่มุมของการท่องเที่ยว เชื่อว่าหลายคนคงน่าจะรู้จัก 2 จังหวัดแรกมากกว่า สมุทรสาคร นั้นน่าจะเป็นเมืองที่ถูกลืม หรือถูกมองข้าม ด้วยคำถามจากหลายคนที่ว่า นอกจากมหาชัย ท่าฉลอม วัดท่าไม้ สถานที่ขึ้นชื่อแล้ว สมุทรสาคร มีอะไรที่น่าสนใจให้เที่ยวอีกหรือ ตอบได้เลยว่ามีหลากหลายเส้นทางให้เที่ยว จนไม่น่าเชื่อว่า เรามองข้ามจังหวัดนี้ไปได้ยังไง ไม่ใช้เพียงแค่สถานที่ท่องเที่ยว แต่ยังมีอาหารทะเลสดๆ ในราคาย่อมเยาให้เราได้เลือกทานมากมาย ได้พบกับบรรยากาศสบายๆ ริมชายฝั่ง ที่สามารถเที่ยวได้วันเดียวแบบสบายๆ เดินทางจากกรุงเทพใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง ทริปนี้จะพาไปเจาะลึกเส้นทางริมป่าชายเลนในโซนของตำบลพันท้ายนรสิงห์และบ้านเกาะ เส้นทางนี้มีสถานที่น่าสนใจอยู่มาก
จุดที่ 1 09.30 น. ตลาดริมคลองพ่อพันท้ายนรสิงห์
เริ่มต้นสถานที่แรกที่ ตลาดริมคลองพ่อพันท้ายหาของอร่อยรับประทานเติมพลังก่อนเดินทางไปยังจุดอื่น ตลาดริมคลองพ่อพันท้ายนรสิงห์ ตั้งอยู่ในตำบล พันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร ติดกับศาลพันท้ายนรสิงห์ พื้นที่ของตลาดตั้งอยู่ริมคลองและมีต้นโกงกางของป่าชายเลนปกคลุมบ่งบอกถึงอัตลักษณ์ความเป็นเมืองริมฝั่งทะเล มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลน ตลาดตกแต่งบรรยากาศสไตล์พื้นบ้านเป็นด้วยกระท่อมไม้ไผ่มุงจาก เพื่อให้คงเอกลักษณ์ของความเป็นชุมชนพื้นบ้าน มีร้านค้ากว่า 200 ร้าน จำหน่ายอาหาร ขนมไทย อาหารพื้นเมือง ของใช้ และผลิตภัณฑ์ OTOP จากจังหวัดสมุทรสาคร หากแวะมาสักการะองค์พ่อพันท้ายนรสิงห์แล้ว ต้องไม่พลาดที่จะแวะมาชม ชิม ช็อปกับบรรยากาศชิว ริมคลอง วันเวลาเปิดทำการ : ทุกวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00น. – 17.00 น.
ตลาดริมคลองพ่อพันท้ายนรสิงห์ แบ่งเป็น 2 โซน โซนแรกตั้งอยู่บริเวณทางเข้า จัดเป็นซุ้มขายอาหารมีรทั้งคาวหวาน ของดี ของฝาก ของเมืองสมุทรสาครที่น่าซื้อหากลับไปเป็นที่ระลึก โซนที่สอง เป็นตลาดริมคลองแบบตลาดน้ำ ตกแต่งสไตล์พื้นบ้านแบบกระท่อมไม้ไผ่มุงจาก มีร้านขายอาหารที่สามารถสั่งมานั่งทานได้ เป็นตลาดน้ำที่แทรกตัวอยู่ในพื้นที่ของป่าโกงกาง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสมุทรสาคร
รับจัดกรุ๊ปทัวร์สมุทรสาคร เที่ยวทั่วไทย ทัวร์ในประเทศ ทัวร์หมู่คณะ จัดกรุ๊ปเหมา ดูงาน จัดอบรม สัมมนา ประชุม ทัศนศึกษา บริการสำหรับ นักศึกษา ห้างร้าน บริษัท อบต เทศบาล โรงเรียน หน่วยงานราชการต่างๆ
ติดต่อเช่ารถบัส
ร้านขายอาหารส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในเรือ มีอาหารให้เลือกหลากหลาย ทั้ง ก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ ผัดไทย ก๋วยจั๋บ ขนมจีนน้ำยา เป็นต้น ราคาอาหารก็ถูกมาก ชามละ 20-30 บาท น้ำแก้วละ 10-20 บาท เท่านั้น มีพื้นที่นั่งทานอาหารก็เป็นแคร่ไม้ไผ่บ้านๆ ริมน้ำ ให้ความรู้สึกชิวในการนั่งรับประทานมาก
ร้านขายสินค้าโอทอปต่างๆ
จุดที่ 2 10.30 น. ศาลพันท้ายนรสิงห์
หลังจากอิ่มอร่อยจากตลาดริมคลอง ก็เดินข้ามไปยังศาลพันท้ายนรสิงห์ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าตลาด ซึ่งถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวสมุทรสาครให้ความเคารพนับถือ ศาลพันท้ายนรสิงห์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความซื่อสัตย์แก่พันท้ายนรสิงห์ผู้ซึ่งเป็นนายท้ายเรือที่จงรักภักดีผู้ที่ยอมรับโทษประหารชีวิตเพื่อรักษาระเบียบแบบแผนราชประเพณีตามกฏมณเฑียรบาลในสมัยอยุธยา
พันท้ายนรสิงห์ นายท้ายเรือพระที่นั่งเอกไชยอยู่ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าเสือ พันท้ายนรสิงห์ ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริต จงรักภักดีและรักษาระเบียบวินัยยิ่งชีวิต ในคราวที่คัดท้ายเรือพระที่นั่งเอกชัยจนหัวเรือชนกิ่งไม้ใหญ่ริมคลองโคกขาม ทำให้โขนเรือหักตกลงในน้ำ พันท้ายนรสิงห์กราบบังคมทูลพระเจ้าเสือและทรงพระราชทานอภัยโทษให้เพราะถือเป็นเหตุสุดวิสัย แต่พันท้ายนรสิงห์ก็ยังไม่ยอม ให้ประหารชีวิตตามกฎมณเฑียรบาลเพื่อรักษาเกียรติของพระเจ้าเสือ
บริเวณศาลพันท้ายนรสิงห์ยังมีซากเรือโบราณ สร้างจากไม้ตะเคียนขนาดใหญ่เพียงต้นเดียว มีความยาว 19.47 เมตร กว้าง 2.09 เมตร สูง 1เมตร คาดว่ามีอายุถึงราว 300 ปี ชาวบ้านแถบนี้เชื่อว่า เรือลำนี้อาจเป็นเรือในขบวนเสด็จ หรืออาจเป็นเรือลำเลียงทหารในอดีต
จุดที่ 3 11.00 น. ป่าชายเลนพันท้ายนรสิงห์
ด้านหลังของศาลพันท้ายนรสิงห์คือ เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนพันท้ายนรสิงห์ เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ทรัพยากรธรรมชาติชายฝั่งทะเล และเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติของป่าชายเลน โดยจัดทำเป็นทางเดินสะพานปูนเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติบรรยากาศร่มรื่น โดยในเส้นทางศึกษาธรรมชาติจะเป็นสะพานปูนที่ทอดยาว มีต้นโกงกางขี้นอยู่โดยรอบตลอดแนวชายคลอง โดยต้นโกงกางส่วนมากจะเป็นต้นโกงกางใบใหญ่
จุดเด่นของเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนพันท้ายนรสิงห์นั้นอยู่ที่สะพานแขวน ซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังสถานที่แห่งนี้
จุดที่ 4 12.00 น. วัดพันท้ายนรสิงห์
ก่อนกลับแวะไปทำบุญที่ วัดพันท้ายนรสิงห์ ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน เป็นวัดที่มีอายุไม่นาน มีพระเจดีย์จุฬามณีเช่นเดียวกับที่วัดท่าซุง
จุดที่ 5 12.30 น. ตลาดน้ำพันท้ายนรสิงห์
ตลาดน้ำพันท้ายนรสิงห์ เป็นตลาดน้ำแห่งใหม่ที่จะได้ช๊อป ชิม ชิว กับบรรยากาศสบาย ซึ่งตลาดน้ำในโซนนี้มี 2 แห่ง คือ ตลาดน้ำพันท้ายนรสิงห์ และตลาดริมคลองพ่อพันท้าย ซึ่งอยู่บริเวณศาลพันท้าย ตลาดทั้งสองแห่งจะตั้งอยู่คนละจุดกัน โดยตลาดน้ำพันท้ายนรสิงห์จะถึงก่อน เป็นตลาดน้ำแห่งใหม่ที่เพิ่งตัวได้ไม่นานโดยสร้างเป็นจำลองบรรยากาศแบบตลาดโบราณ สัมผัส กับอาหารทะเล ของกินพื้นบ้าน สินค้าโอทอป ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดใกล้เคียงมากมาย ของกินโบราณที่หากินได้ยาก ล่องเรือ ให้อาหารลิง ชมวิถีชีวิตชาวบ้าน ชมหิ่งห้อย และนกนาๆชนิด ร่วมแต่งกายย้อนยุคในสมัยอยุธยา และกิจกรรมอี่นๆอีกมากมาย
ภายในตลาดกว้างขวางมีที่นั่งริมน้ำเป็นสัดส่วน และมีอาหารขายหลากหลายทั้งคาวหวาน ในราคาย่อมเยา มีของฝากจากชุมชนให้เลือกสรรกันอีกด้วย อาหารทะเลที่ใส่มาในถาดราคา 100-200 อาหารสดมากสมกับเป็นเมืองติดชายฝั่งทะเล ลองรับประทานหอยแครงยักษ์ย่างครั้งแรก คือ ย่างมากำลังดีมาก เนื้อกรอบอร่อย
สินค้าและอาหารต่างๆ ที่จำหน่ายในตลาดมีให้เลือกมากมาย
ตลาดน้ำพันท้ายนรสิงห์ เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09:00 – 20:00น.
มีบริการล่องเรือค่ล่องเรือชมธรรมชาติ ไหว้ศาลพ่อพันท้ายเก่า ค่าเรือคนละ50 ล่องเรือให้อาหารลิง 60 บาท
https://www.facebook.com/panthainorasingmarket
บริการเช่ารถบัสปรับอากาศสมุทรสาคร รถโค้ช 8 ล้อ 2 ชั้น. บริการรถเช่า รถบัสปรับอากาศ รถโค้ชปรับอากาศ 8 ล้อ 2ชั้น ขนาด 50 ที่นั่ง
จุดที่ 6 13.30 น. วัดโคกขาม
วัดโคกขาม วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในวัดมีโบราณสถานที่สำคัญ คือ โบสถ์มีหน้าบันไม้แกะสลักงดงามมาก ลักษณะโบสถ์เป็นโบสถ์มหาอุตย์ มีประตูเข้าด้านเดียวทางทิศตะวันออก พระเจดีย์คู่ ด้านหน้าโบสถ์มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาอย่างชัดเจน ภายในโบสถ์มี “หลวงพ่อสัมฤทธิ์” (พระพุทธสิหิงค์) เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ประมาณ 300 ปี ฝีมือช่างชาวล้านนา
จุดที่ 7 15.00 น. สะพานแดง จุดชมวิวปลาโลมา
สะพานแดง จุดชมวิวปลาโลมา ตั้งอยู่ใกล้กับศาลเจ้าพ่อมัจฉานุ เป็นจุดชมวิวบรรยากาศริมชายฝั่งทะเล และชมพระอาทิตย์ตก ชมป่าชายเลนและไม้ไผ่ชะลอคลื่น แต่ก่อนในช่วงเดือน พฤศจิกายน-มกราคม ลมหนาวเข้าสู่อ่าวไทย สายลมและน้ำเค็มได้พัดพาเอาฝูงปลาโลมาเข้ามาเป็นจำนวนมาก จุ ดนี้จึงเป็นจุดชมปลาโลมา จนเป็นที่มาของชื่อ แต่ปัจจุบันโอกาสที่จะได้เห็นปลาโลมามีน้อยลงหรืออาจจะไม่เห็นเลย แต่จุดชมวิวก็ยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เพราะมีสะพานไม้สีแดงที่ทอดยาวขนานไปกับชายทะเลความยาว 700 เมตร มองเห็นวิวทิวทัศน์ของชายฝั่งที่สวยงาม มีลมทะเลพัดเย็นสบาย สามารถชมบรรยากาศของพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ บริเวณทางเข้า มีร้านอาหารทะเลให้บริการหลายร้าน
สะพานแดงดังกล่าวมีอายุประมาณ 6 ปี สร้างโดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสมุทรสาคร เหตุผลที่ทาสีสะพานเป็นสีแดง เพราะแต่เดิมหมู่บ้านที่เป็นที่ตั้งของสะพานแดง มีชื่อว่า หมู่บ้านแดง สะพานแดงสร้างด้วยไม้แผ่นทั้งหมดรองรับฐานด้วยเสาปูน มีความยาวทั้งสิ้น 700 เมตร แต่บางช่วงของสะพานชำรุดต้องเดินด้วยความระมัดระวัง ควรพกร่มและหมวกติดตัวมาด้วยเพื่อป้องกันแดด
จุดที่ 8 16.00 น. ศาลาพระกลางน้ำ
พระกลางน้ำ หรือ ศาลาพระกลางน้ำ ที่เที่ยวอีกแห่งของจังหวัดสมุทรสาครที่น่าสนใจศาลาพระกลางน้ำแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 2541 เดิมทีเป็นศาลาไม้ไผ่ที่ชาวบ้านเอาไว้ใช้เฝ้าหอยแมลงภู่ และสังเกตคุณภาพน้ำ แต่ภายหลังเกิดภัยธรรมชาติ ทำให้ศาลาพังทลายลงมา จึงได้มีการบูรณะใหม่ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ภายในเป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธมหาสมุทร แต่ปัจจุบันโบสถ์ทางขึ้นขาดไม่สามารถขึ้นได้ซึ่งทางจังหวัดกำลังอยู่ในช่วงสร้างสะพานใหม่เชื่อมต่อไปยังโบสถ์ใหม่ แต่นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือไปชมวิวทะเลและศาลาพระกลางน้ำได้แบบใกล้ชิด
การไปชมศาลาพระกลางน้ำสามารถทำได้โดยไปขึ้นเรือที่ร้านอาหารเจ๋ง ครัวชายทะเล ซึ่งต้องสั่งอาหารจากทางร้านทานก่อน โดยมีบริการเรือนำเที่ยวชมวิวทะเลและศาลาพระกลางน้ำฟรี จะสั่งไว้ก่อนแล้วไปนั่งเรือจากนั้นก็กลับมาทานก็ได้ หรือจะทานก่อนแล้วนั่งเรือไปชมวิว บรรยากาศของร้านอาหารอยู่ติดริมอ่าว ร่มรื่น ร่มพัดเย็นสบายจนรู้สึกหนาว เมนูอาหารมีหลากหลายเน้นอาหารทะเล อาหารจานใหญ่มากราคาถูกเกินปริมาณ ในส่วนของรสชาติอาหารสดอร่อย คุ้มราคา สั่งยำใบชะคราม หอยตลับผัดฉ่า ต้มยำปลาทู และหอยนางรมทรงเครื่องมาทาน ทั้งหมดนี้ราคาเพียง 800 กว่าบาทเท่านั้น ทานกัน 2 คน ไม่หมดต้องแพคกลับบ้าน
จากนั้นก็ถึงเวลาไปล่องเรือ เป็นเรือหางยาวขนาดใหญ่ ผ่านบรรยากาศริมอ่าว มองแล้วสบายตา เห็นร้านอาหารร้านอื่นซึ่งน่าจะมีบริการล่องเรือเช่นกัน ระหว่างทางก็จะได้เห็นนกเป็ดน้ำ นกกระยาง ที่บินไปมาหาปลา บ้างก็มาเกาะไม้ไผ่ นอกจากจะได้ชมวิวทะเล ชมโบสถ์แล้ว ก็ถือว่าได้ชมนกไปด้วย เพลิดเพลินตากันไป
นั่งเรือไม่ถึง 10 นาที ก็มาถึงศาลาพระกลางน้ำ ซึ่งปัจจุบันปิดไม่ให้เข้าชมเพราะทางขึ้นชำรุด แต่สามารถชมศาลารอบๆ ได้ ยิ่งช่วงเย็นในยามพระอาทิตย์ตกจะสวยมาก
จบทริปเที่ยวสมุทรสาครวันเดียวกับ 8 สถานที่เช็คอินเด็ดที่มีให้แวะถึง 8 จุด หากพูดถึงจังหวัดนี้อย่าเพิ่งมองข้าม ลองแวะมาเที่ยวกันซักนิด แล้วจะรู้ว่า สมุทรสาครนั่น อาจไม่ใช่เมืองทางผ่านอีกต่อไป
บริการรถตู้ให้เช่าสมุทรสาคร ราคาถูก รถตู้ให้เช่า นำเที่ยวทั่วไทย ปลอดภัย ประกัน ชั่น 1
++ เหมารถตู้พร้อมคนขับชำนาญทาง ++เหมารถตู้สมุทรสาคร ไปงานบุญ งานรับปริญญา งานแต่ง ดูงาน สัมมนาต่างๆ อื่นๆ
หน้าที่เข้าชม | 70,939 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 54,614 ครั้ง |
เปิดร้าน | 15 พ.ค. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |